ความต่าง ระหว่าง ฟอเร็กซ์ vs ไบนารีออปชั่น
เมื่อเริ่มมีการเทรดแบบไบนารีออปชั่นเกิดขึ้น นักลงทุนต่างก็ถกเถียงกันว่าการเทรดประเภทใดดีกว่ากันระหว่างไบนารีออปชั่นและฟอเร็กซ์ อย่างไรก็ตาม การเทรดทั้งสองประเภทนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทั้งนี้ เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างฟอเร็กซ์และไบนารีออปชั่น เราจึงขออธิบายรายละเอียดของการเทรดทั้งสองประเภทดังต่อไปนี้
ระดับความเสี่ยง
ไม่ว่าจะเป็นการเทรดฟอเร็กซ์หรือไบนารีออปชั่นล้วนแต่มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม การเทรดไบนารีออปชั่นนั้นนักลงทุนสามารถทราบผลกำไรหรือขาดทุนได้ล่วงหน้า เราจึงสรุปได้ว่าการเทรดในรูปแบบนี้มีระดับความเสี่ยงค่อนข้างต่ำกว่า การคำนวนผลกำไรหรือขาดทุนในเบื้องต้นช่วยให้นักลงทุนสามารถพิจารณาการเทรดได้อย่างระมัดระวังมากขึ้น ทำให้สามารถควบคุมความเสี่ยงและเงินลงทุนได้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับการเทรดฟอเร็กซ์ ข้อได้เปรียบที่สำคัญของไบนารีออปชั่นคือการไม่ต้องใช้ leverage ต่างจากการเทรดฟอเร็กซ์ก็ว่าได้ เนื่องจากการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์นั้นคือการถือออเดอร์เป็นจำนวนเงินที่มาก นักลงทุนจึงถูกบังคับให้ใช้ leverage ที่เสนอโดยโบรกเกอร์เพื่อให้มีโอกาสเทรดในตลาดโลกได้ ซึ่งแน่นอนว่า การเทรดดังกล่าวจะมีโอกาสได้รับกำไรที่ค่อนข้างสูง แต่หากมีการเคลื่อนที่ของราคาเพียงเล็กน้อยไปยังฝั่งตรงข้ามกับก็จะทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมากได้ ดังนั้นไบนารีออปชั่นจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่พร้อมขาดทุนเป็นจำนวนมากตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้ โบรกเกอร์ไบนารีออปชั่นบางรายยังเสนอโอกาสแก่ลูกค้าที่จะได้รับเงินลงทุนคืนด้วยการปิดออเดอร์ล่วงหน้าในกรณีที่นักลงทุนรู้สึกว่าตนเองวิเคราะห์ผิดอีกด้วย ข้อได้เปรียบนี้ทำให้นักลงทุนสามารถลดการขาดทุนลงได้ ซึ่งถ้าเป็นการเทรดฟอเร็กซ์จะไม่สามารถทำได้ เทรดง่าย ข้อแตกต่างอีกประการจากตลาดฟอเร็กซ์ก็คือการเทรดไบนารีออปชั่นนั้นค่อนข้างง่ายกว่า โดยนักลงทุนสามารถเปิดออเดอร์ได้แค่ 2-4 ขั้นตอนง่ายๆ ซึ่งการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์นั้น นักลงทุนจะต้องพิจารณาและตั้งค่าพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อลดโอกาสการขาดทุนลง แต่ผู้เทรดไบนารีออปชั่นเพียงแค่เลือกระหว่างรายการ 2 ประเภท - call หรือ put - เท่านั้น ซึ่งทำให้การเทรดเป็นไปโดยง่ายดาย ในขณะที่การเทรดฟอเร็กซ์จะต้องมีการวิเคราะห์มากกว่านี้
ความสามารถในการทำกำไร
กำไรจากการเทรดไบนารีออปชั่นขึ้นอยู่กับปัจจัยสองสามข้อนั่นคือ จำนวนเงินลงทุน ความรู้และประสบการณ์ของผู้เทรด และอัตราการจ่ายเงินที่ของโบรกเกอร์ อัตราการจ่ายเงินเป็นเปอร์เซนต์ของไบนารีออปชั่นนั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของออปชั่น ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 60% ถึง 80% อย่างไรก็ตาม ออปชั่นบางประเภทก็สามารถมีอัตราการจ่ายเงินไปถึง 300% - 400% ได้ อัตราการจ่ายเงินที่คงที่นี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถคำนวณกำไรได้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นเหตุผลที่นักลงทุนไบนารีออปชั่นสามารถควบคุมระดับความเสี่ยงของตนเองและสามารถคำนวณยอดกำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อน นักลงทุนไบนารีออปชั่นส่วนใหญ่จะมีการเปิดออเดอร์มากกว่านักลงทุนฟอเร็กซ์ ซึ่งปกติจะมีการเปิดออเดอร์สูงสุดประมาณ 10 ออเดอร์ต่อวัน นอกจากนี้ถ้านักลงทุนเลือกเทรดออปชั่นที่มีเวลาหมดอายุใน 60 วินาที อาจจะมีการเทรดสูงสุดถึง 40 ออเดอร์ต่อวันได้ นักลงทุนฟอเร็กซ์นั้นจะต้องระมัดระวังในการเทรดมากกว่า ดังนั้นปกติจะเปิดออเดอร์เพียง 3-4 ออเดอร์ระหว่างวันเท่านั้น เงินลงทุน ไบนารีออปชั่นไม่ต้องการเงินลงทุนจำนวนมากและในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างกำไรได้มากอีกด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่จำนวนนักลงทุนไบนารีออปชั่นนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่นักลงทุนรายย่อย สำหรับนักลงทุนฟอเร็กซ์นั้นมักจะต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมากหากโบรกเกอร์ของพวกเขาใช้ leverage ในการเทรดต่ำ หากนักลงทุนมุ่งหวังจะเทรดให้ได้ผลกำไรจำนวนมาก ก็จะยิ่งจำเป็นต้องใช้ leverage สูงตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันถ้าลงทุนสูงก็จะมีโอกาสขาดทุนเป็นจำนวนมากได้ด้วย นักลงทุนฟอเร็กซ์จึงไม่ควรสนใจความสามารถในการทำกำไรง่ายๆในช่วงเวลาสั้นๆ สรุป การเทรดไบนารีออปชั่นนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกับการเทรดฟอเร็กซ์ จึงเป็นเหตุผลที่นักลงทุนควรจะต้องพิจารณาคุณสมบัติของตนเองก่อนจะเลือกลงทุน การเทรดทั้งสองรูปแบบนี้มีความเหมาะสมแตกต่างกันไปในนักลงทุนแต่ละประเภท แน่นอนว่าขณะนี้ตลาดฟอเร็กซ์นั้นได้รับความนิยมสูงในหมู่นักลงทุนรายย่อย ในขณะที่ไบนารีออปชั่นนั้นเรียกได้ว่าเป็นกระแสใหม่ จนถึงตอนนี้มีเพียงนักลงทุนบางรายเท่านั้นที่เลือกการเทรดในรูปแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงข้อได้เปรียบทั้งหมดของการเทรดไบนารีออปชั่นแล้ว การเทรดรูปแบบนี้เป็นช่องทางการสร้างรายได้ที่น่าสนใจทีเดียว
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://th.fxclearing.com/forex-vs-binary
คลิ๊กเพื่อสมัครเทรดกับFXCL
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น